ตราตั้งห้างร้านที่ปรากฏบนซองจดหมาย

การพระราชทานตราตั้งห้าง
มีธรรมเนียมอันเกี่ยวเนื่องกับสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ข้อหนึ่งที่ไทยเรารับมาจากชาติตะวันตก และได้ใช้เป็นธรรมเนียมแพร่หลายอยู่ในปัจจุบันนี้ คือ ธรรมเนียมการพระราชทานตราตั้งห้าง อันมีความหมายว่า ได้พระราชทานเกียรติยกย่องบริษัทห้างร้านที่ประกอบกิจการค้ากับพระราชสำนักมาเป็นเวลายาวนาน และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไว้วางใจของประชาชน โดยได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้ตราพระครุฑพ่าห์ประกอบกับถ้อยคำว่า “โดยได้รับพระบรมราชานุญาต” เป็นเครื่องหมายเสดงว่า ทรงพระมหากรุณา ธรรมเนียมเช่นนี้เริ่มใช้ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเจ้าเกล้าอยู่หัว และยังคงถือปฏิบัติมาตราบจนกระทั่งทุกวันนี้

ตราตั้ง หรือ ตราตั้งห้าง คือ หนังสือรับรองการพระราชทานพระบรมราชานุญาตที่ออกให้แก่บุคคลหรือห้างร้านบริษัท เพื่อแสดงว่าบุคคลหรือห้างร้านบริษัทตามที่ระบุชื่อเป็นผู้ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้เครื่องหมายครุฑพ่าห์ในกิจการที่ระบุได้ ทั้งนี้ เครื่องหมายตราตั้ง คือ เครื่องหมายครุฑพ่าห์ที่มีข้อความประกอบเบื้องล่างว่า “โดยได้รับพระบรมราชานุญาต” หรือข้อความเป็นอักษรต่างประเทศตามที่สำนักพระราชวังกำหนด ที่บุคคลหรือห้างร้านบริษัทมีสิทธิที่จะใช้เมื่อได้รับตราตั้งแล้ว

การพระราชทานตราตั้งเริ่มมีมาแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเดิมเป็นตราอาร์มมีข้อความประกอบว่า “โดยได้รับพระบรมราชานุญาต” ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้เปลี่ยนตราแผ่นดินเป็นตราพระครุฑพ่าห์

ปัจจุบัน ต้องยื่นคำขอพระราชทานตราต่อสำนักพระราชวัง เพื่อที่จะได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ภายหลังตรวจสอบและพิจารณาเห็นว่าห้างร้านหรือบริษัทใดที่ขอพระราชทานตราตั้งสมควรได้รับพระราชทานตราตั้ง ทั้งนี้ เมื่อได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตแล้วให้เลขาธิการพระราชวังออกตราตั้งให้ และประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ตราตั้งนี้ถือเป็นของพระราชทานเฉพาะบุคคล สิทธิรับพระราชทานและการใช้เครื่องหมายนี้จะสิ้นสุดเมื่อสำนักพระราชวังเรียกคืน เนื่องจากบุคคล ห้างร้าน บริษัทที่ได้รับพระราชทาน ตายหรือเลิกประกอบกิจการ หรือโอนกิจการให้ผู้อื่น หรือสำนักพระราชวังเห็นสมควรเพิกถอนสิทธิ
(พระราชบัญญัติเครื่องหมายครุฑพ่าห์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๐๙ ตอนที่ ๑๐ หน้า ๕ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๕)

ตามระเบียบการพระราชทานตราตั้งห้าง ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ ๑๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๘๒ กำหนดแนวทางการขอพระราชทานตราตั้งห้างไว้ว่า บุคคลทั้งหลายมีสิทธิที่จะกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานตราตั้งห้างของตน ห้างร้านบริษัทที่จะขอพระราชทานตราตั้งได้นั้นต้องมีฐานะเป็นนิติบุคคล หรือได้จดทะเบียนแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย และได้ทำการติดต่อกับกรมกองต่าง ๆ ในพระราชสำนักมาก่อน และต้องปรากฏว่า มีฐานะการเงินดีเป็นที่เชื่อถือแก่มหาชนทั้งหลายมานานพอสมควรด้วย ไม่มีหนี้สินรุงรัง เว้นแต่หนี้อันเป็นปกติวิสัยธรรมดาเฉพาะกิจการค้าตามประเภท นอกจากนั้นห้างร้านบริษัทที่จะขอพระราชทานตราตั้งได้จะต้องประกอบการค้าใดสุจริต ตั้งอยู่ในศีลธรรม ไม่เคยมีความผิดฐานทุจริต เป็นปฏิปักษ์ต่อความรู้สึกของมหาชน

หนังสือที่ยื่นขอพระราชทานตราตั้ง ให้ยื่นต่อสำนักพระราชวัง และต้องมีรายละเอียดตามที่กำหนดไว้ในระเบียบการ เช่น ผู้ขอมีหน้าที่ใดในห้างร้านใด แสดงชื่อ นามสกุล และที่อยู่อันเป็นหลักแหล่งของผู้ขอให้ชัดเจน รวมทั้งแสดงความประสงค์ว่า ขอตราตั้งสำหรับกิจการค้าประเภทใดโดยยื่นพร้อมใบสำคัญแสดงฐานะการเงิน และการค้าขายของร้าน เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการวินิจฉัยด้วย

ตราตั้งนั้นจะพระราชทานหรือไม่สุดแล้วแต่จะมีพระราชดำริเห็นสมควร เมื่อผู้ที่ขอรับพระราชทานตราตั้งได้รับพระบรมราชานุญาตแล้วนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ออกตราตั้งมอบให้แก่ผู้ที่ขอพระราชทาน เครื่องหมายตราตั้งนั้นเป็นรูปพระครุฑพ่าห์ หน้าอัดทรงเชิด และมีคำว่า “โดยได้รับพระบรมราชานุญาต” อยู่ที่เบื้องล่างแห่งดวงตรานั้นด้วย ถ้าเป็นห้างร้านบริษัทในต่างประเทศ จะใช้คำเป็นภาษาอังกฤษว่า “By Appointment to HiS Majesty the King of Thailand” แทนภาษาไทยก็ได้ ห้างร้านหรือบริษัทใดที่ได้รับพระราชทานตราตั้ง จะใช้เครื่องหมายตราตั้งประดับ ณ สถานที่ทำการค้าหรือจะพิมพ์รูปจำลองเครื่องหมายตราตั้งลงในกระดาษของใบเก็บเงิน ใบรับเงิน ฉลากซองพาณิชยบัตร และยานพาหนะขนส่งเฉพาะที่เกี่ยวกับกิจการค้าที่ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตนั้นก็ได้

ตราพระครุฑพ่าห์ แบบที่ใช้ตราตั้งห้าง

ตราตั้งที่พระราชทานนี้ เป็นการพระราชทานเฉพาะบุคคล และสำหรับกิจการค้าประเภทที่ได้รับพระบรมราชานุญาตโดยเฉพาะ จะโอนไปให้บุคคลอื่นไม่ได้ และตราตั้งนี้เป็นอันล้มเลิกตามพระราชอัธยาศัย หรือเมื่อบุคคลที่ได้รับพระราชทานตราตั้งถึงแก่กรรม หรือล้มละลายหรือต้องชำระบัญชีเลิกห้างหุ้นส่วน หรือต้องพระราชอาญาจำคุก หรือกลายเป็นคนมีหนี้สินล้นพ้นตัว หรือพ้นจากหน้าที่ใด ๆ ในห้างร้านบริษัทนั้น หรือเลิกกิจการค้าประเภทที่ได้รับพระบรมราชานุญาตให้ใช้ตราตั้งนั้น หรือเมื่อโอนกิจการค้านั้นให้แก่ผู้อื่น ซึ่งถ้าเกิดเหตุประการหนึ่งประการใดดังกล่าวมาแล้วขึ้น ต้องส่งคืนตราตั้งให้แก่สำนักพระราชวังโดยเร็ว และจะใช้เครื่องหมายตราตั้งต่อไปไม่ได้เป็นอันขาด

อนึ่ง เพื่อเป็นแนวทางประพฤติปฏิบัติสำหรับผู้ได้รับพระราชทานตราตั้ง ระเบียบการพระราชทานตราตั้งห้างได้กำหนดข้อปฏิบัติสำหรับบุคคลผู้ได้รับพระราชทานตราตั้งไว้ คือบุคคลผู้ได้รับพระราชทานตราตั้งต้องบำเพ็ญตนให้อยู่ในฐานะอันดี เสมอเหมือนกับเมื่อได้รับพระราชทานตราตั้ง หรือตีขึ้นไปกว่าฐานะเช่นนั้นนอกจากนี้ ห้ามมิให้ใช้เครื่องหมายตราตั้งเป็นเครื่องหมายการค้าของห้าง ห้ามมิให้ใช้ธงอันมีรูปเครื่องหมายตราตั้ง ห้ามมิให้ใช้คำว่า “หลวง” เช่น “ช่างทองหลวง” เป็นต้น ห้ามมิให้ใช้ตราตั้ง หรือรูปจำลองเครื่องหมายตราตั้งในการอันไม่เกี่ยวกับกิจการค้าขาย ซึ่งได้รับพระราชทานตราตั้งโดยเฉพาะ ห้ามมิให้ประกาศ หรือแจ้งความโฆษณาว่า ตนเป็นผู้ทำการติดต่อกับราชการในพระราชสำนัก และห้ามมิให้ทำรูปจำลอง หรือสำเนาตราตั้งแม้แต่ส่วนใดส่วนหนึ่งขึ้นโดยมิได้รับอนุญาต

นับตั้งแต่ได้มีธรรมเนียมการพระราชทานตราตั้งเกิดขึ้นในประเทศไทยเป็นต้นมา ได้มีบริษัทห้างร้านจำนวนมากที่ประกอบสัมมาอาชีวะด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ได้รับพระราชทานตราตั้งเป็นเกียรติยศ พระมหากรุณาธิคุณที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเช่นนี้ ย่อมเป็นเครื่องอุดหนุนอย่างสำคัญให้ผู้ประกอบกิจการค้าเหล่านั้นเกิดกำลังใจ มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างความเจริญให้เกิดแก่กิจการค้าของตนยิ่ง ๆ ขึ้นไป และโดยไม่ละเลยความสุจริตต่อมหาชน ทำให้บังเกิดผลดีแก่ผู้ประกอบการค้าและสังคมโดยส่วนรวม

1964 – THAILAND SIAM OLD COVER REGISTERED BANGKOK TO ITALY มีตราฯ พร้อมข้อความ “โดยพระราชานุญาตพิเศษ
1982 – Thailand on Chiang Mai Reg Cover to US.

โดย รองศาสตราจารย์ธงทอง จันทรางศุ
สารานุกรมไทย สำหรับเยาวชน
ที่มา https://www.kroobannok.com/7531
https://readthecloud.co/scoop-20/

Advertisement